ประวัติของประเทศอินเดีย
ประเทศอินเดีย หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐอินเดีย ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียใต้ เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของอนุทวีปอินเดีย มีประชากรมากเป็นอันดับที่สองของโลก และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยมีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน
มีภาษาพูดแปดร้อยภาษาโดยประมาณ ด้านเศรษฐกิจ อินเดียมีอำนาจการซื้อมากเป็นอันดับที่สี่ของโลก ทั้งนี้
อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับจีนเนปาล และภูฏาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับปากีสถาน ทางตะวันออกเฉียงเหนือติดพม่า ทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้จรดมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันออกติดบังกลาเทศ และมีพื้นที่ 3,287,590 ตารางกิโลเมตรประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล
ชาวดราวิเดียน (Dravidian) และชาวอารยัน (Aryan) เริ่มกำเนิดอารยธรรมต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำสินธุ ต่อมาในสมัยอาณาจักรเมารยะ
(ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล)
ซึ่งมีดินแดนในตอนเหนือตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำสินธุจรดอ่าวเบงกอล
พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างความรุ่งเรืองในการปกครอง ตลอดจนการสนับสนุนการเผยแพร่พุทธศาสนา
ในสมัยราชวงศ์โมกุล (คริสต์ศตวรรษที่ 16 – 18) เป็นสมัยที่มีการแพร่ขยายอิทธิพล
วัฒนธรรมโมกุลอย่างกว้างขวาง ทั้งในด้านการปกครอง ภาษา ศิลปะ สถาปัตยกรรม
และศาสนาอิสลาม อังกฤษเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในอนุทวีป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17
เพื่อค้าขายพร้อม ๆ กับครอบครองดินแดนและแทรกแซงในการเมืองท้องถิ่น
จนกระทั่งอินเดียตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2420 (ค.ศ. 1877) โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดินีแห่งอินเดีย
หลังจากการรณรงค์ต่อต้านการปกครองของอังกฤษมาเป็นเวลานาน
อินเดียจึงได้รับเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947)
และได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอินเดียในปี พ.ศ. 2493 (ค.ศ. 1950)
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
1.ทัชมาฮาล
( Taj Mahal ) เป็นที่บรรจุพระศพพระราชายามุมตัส
มาฮาล เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรัก
2.ป้อมอัคราฟอร์ด
( Agra Fort ) เป็นที่ประทับและสถานที่ถูกกักขังกษัตริย์
ชาห์จาฮัน ผู้สร้างทัชมาฮาล
3.India
Gate ประตูเมืองอินเดีย เป็นสิ่งก่อสร้างมีลักษณะคล้ายคลึงประตูชัย
( L’Arc de Triomphe ) ของฝรั่งเศส มีความมุ่งหมายให้
เป็นอนุสรณ์แก่ทหารที่พลีชีวิตในสงครามครั้งสำคัญ ๆ ของอินเดีย
โดยได้จารึกรายชื่อของทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ
4.บ้านมหาตมะ
คานธี (Ganhi Smriti) เป็นสถานที่ที่มหาตมะ
คานธี พักอยู่ในเดลี และเป็นที่ที่มหาตมะ คานธี ถูกลอบสังหารโดย จนท.รปภ. ของตนเอง
5.วัดลักษมีนารายัน
(Lakshmi Narayan Temple) วัดลักษมีนารายันหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเบอร์ลาแมนเดียร์
(Birla Mandir) ตามชื่อของผู้สร้าง คือ นายราชา ปาลเทพ เบอร์ลา
(Raja Baldev Birla) ซึ่งเป็นนักธุรกิจคนสำคัญของอินเดีย
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๑ เพื่อบูชาพระนารายณ์ (พระผู้พิทักษ์โลก) และพระลักษมี
(เทพแห่งความมั่นคง)
6.กุตับ
มีนาร์ (Gutab Minar) กุตับ มีนาร์
(กุตับ-ชื่อของกษัตริย์ กุตับ อุดดิน ไอบัก, มีนาร์-หอสูง)
หรือเดิมชื่อ ปฤถวีสตัมภ์ (ปฤถวี-ชื่อของ กษัตริย์ ฮินดู, สตัมภ์-เสา)
เป็นหอสูงที่น่าจะถือว่าเป็นเครื่องหมายของกรุงนิวเดลี
7.วัด Akshardham เป็นศาสนสถานใหม่ของฮินดู
สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวและสีชมพู ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ภายในโดมมีรูปปั้นของ Bhagnan
นับเป็น ศาสนสถานใหม่ที่มีความใหญ่โตมาก
8.พระราชวัง
อัมเบอร์ (Amber Fort) สร้างขึ้นโดยราชาบิฮาล หรือ บฮามาล ในปี ค.ศ.1558 มีลานกว้างสำหรับเป็นที่เข้าเฝ้าพระราชาหรือ
ฮอลล์ ออฟ ไพรเวท “Hall of Private Audience” ที่ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระจกหลากสีและรูปแกะสลัก
ส่วนชั้นบนจะเป็นช่องมอง
9.City
Palace พระราชวังแห่งนี้ยังมีราชาองค์ปัจจุบันของเมืองไจปูร์ประทับอยู่
แต่จะอยู่ในส่วนที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถเข้าไปได้
จากคำบอกเล่านักท่องเที่ยวสามารถรับประทานอาหารเย็นกับพระราชาของเมืองไจปูร์องค์ปัจจุบันนี้ได้
โดยต้องเสียค่าร่วมรับประทานอาหาร ประมาณ ๑๕,๐๐๐ รูปี